โลหะหนัก ศึกษาและอธิบายวิธีป้องกันและกำจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย

โลหะหนัก หมายถึงโลหะที่มีความถ่วงจำเพาะมากกว่าน้ำ 3 เท่า เช่น สารหนู ตะกั่ว อะลูมิเนียม สังกะสี ทองแดง ฯลฯ สารเหล่านี้สลายตัวช้าและก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเวลานาน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะสะสมในรูปของอนุมูลอิสระ สารอนุมูลอิสระ สารออกซิแดนท์ ที่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพและก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น การเร่งอายุของอวัยวะต่างๆที่เกิดเร็วกว่าที่ควร

แม้ปัจจุบัน เราสามารถวัดปริมาณโลหะหนักในร่างกายได้ และมีวิธีการใช้ยาที่ช่วยกำจัดได้ แต่เพื่อให้ห่างไกลจากโลหะหนัก คุณควรเริ่มต้นด้วยการป้องกัน โดยคุณสามารถใช้มาตรการต่อไปนี้ สวมหน้ากากอนามัย หากคุณต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก หรือต้องทำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโลหะหนัก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแบตเตอรี่

และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แย่ลงเพราะอาจมีสารโลหะหนักรั่วไหลออกมา โปรดอ่านฉลากอุปกรณ์ก่อนซื้อ เนื่องจากอุปกรณ์บางอย่างอาจมี โลหะหนัก จึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน หลีกเลี่ยงการให้อาหารซ้ำ จากแหล่งเดียวกัน เช่น ผัก ผลไม้ ปลา เพราะมีโอกาสได้รับสารพิษชนิดเดียวกัน สร้างในร่างกายจนถึงระดับอันตราย

ร่างกายของเรามีระบบกำจัดสารพิษและโลหะหนัก ใช้กรดอะมิโนเมไธโอนีนที่เราได้รับจากอาหารประเภทโปรตีน เมไธโอนีนมีวิตามินซีซึ่งช่วยรวมเมไธโอนีน และกำมะถันเพื่อผลิตกลูตาไธโอนสำหรับล้างพิษ ดังนั้นสารที่เราต้องการเพียงพอคือกำมะถัน ซึ่งมีอยู่ในไข่ ขิง บรอกโคลี หอมหัวใหญ่และกระเทียม ดังนั้น เราจึงควรรับประทานเป็นประจำ

ซัลเฟอร์ยังช่วยสร้างโมเลกุลที่ปกป้องระบบทางเดินอาหารที่เรียกว่าเมทัลโลไธโอนีน เมทัลโลไทโอนีน เป็นส่วนประกอบขนาดใหญ่ของโปรตีน ซีสเตอีน ​​ซึ่งมีกรดอะมิโนซิสเทอีน เมทัลโลไทโอนีน จับกับโมเลกุลของปรอทและสารพิษอื่นๆ เข้าสู่ระบบย่อยอาหารและออกจากร่างกาย หลีกเลี่ยงการใช้ยา อาหารเสริม

โดยเฉพาะยาลูกกลอน ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีคุณภาพ เพราะอาจมีโลหะหนักปนเปื้อนอยู่ในที่สูง ตัวอย่างเช่น ครีมไวท์เทนนิ่งที่อ้างว่าทำให้ผิวสว่างขึ้น เนื่องจากอาจมีสารปรอทที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ควรตรวจร่างกายเพื่อหาโลหะหนักปีละครั้ง เพราะหากตรวจพบโลหะหนักในร่างกายมากเกินไปแพทย์จะได้วางแผนช่วยให้ขับออกได้อย่างถูกต้อง

หากคุณอาศัยอยู่ในบ้านเก่าที่สร้างก่อนปี 1978 ให้พิจารณาการปรับปรุงใหม่ เนื่องจากมีการใช้ผลิตภัณฑ์สีทาบ้านที่มีสารตะกั่วในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2530 อาจทำให้เกิดอันตรายได้หากสัมผัสหรือสูดดมอย่างต่อเนื่อง แต่หากหลีกเลี่ยง การตรวจพบโลหะหนักก็ยังเกินอยู่ วิธีหนึ่งที่แพทย์ใช้ในการกำจัดโลหะหนักคือ คีเลชั่นบำบัด

ซึ่งเป็นการกำจัดสารพิษและโลหะหนักออกจากหลอดเลือด ให้โดยการให้ของเหลวที่เป็นสารประกอบของกรดอะมิโน กรดเอทิลีนไดอามีนเตตระอะซิติก หรือ EDTA ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ เข้าทางหลอดเลือด เมื่อ EDTA เข้าสู่ร่างกายแล้วจะรวมตัวกับโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และสารหนู กระทั่งรวมกับแคลเซียมส่วนเกิน จากนั้นจะถูกขับออกทางปัสสาวะ

อย่างไรก็ตาม แพทย์จะพิจารณาถึงความเพียงพอของการทำคีเลชั่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณสารโลหะหนักในร่างกายเป็นสำคัญ เจ็บหน้าอกในเด็กแบบไหน ให้คิดถึงโรคหัวใจ เด็กบางคนอาจมีอาการเจ็บหน้าอกซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อออกกำลังกายหากเด็กมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงในช่วงเวลาสั้นๆ อาจเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อหน้าอกภายนอก

ถ้าเป็นหัวใจวาย เด็กจะมีอาการเจ็บหน้าอกแบบไหน วันนี้เรามีข้อสังเกต อาการเจ็บหน้าอกในเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวัง อาการเจ็บหน้าอกอาจเกิดขึ้นได้แม้ในขณะพักผ่อน และมีอาการหายใจเร็วถี่ร่วมด้วย อาจแสดงว่าหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ เจ็บหน้าอกด้วยเครื่องตรวจวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เจ็บหน้าอก

ระดับออกซิเจนต่ำกว่า 95 เปอร์เซ็นต์แต่ละข้อพบได้บ่อยในเด็กที่เป็นโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจตายหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ การตรวจร่างกายอาจพบภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและความดันเลือดต่ำ เอกซเรย์ปอดเพิ่มเติมพบว่าหัวใจโต ความผิดปกติของการทำงานของหัวใจที่พบในกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหากตรวจหัวใจอย่างละเอียดด้วยวิธีการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยอัลตราซาวนด์

หรือพบเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบปริมาตรน้ำเยื่อหุ้มหัวใจได้ อย่างไรก็ตาม หากการอักเสบรุนแรง อาจถึงแก่ชีวิตได้ ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกน้อย หากพบความผิดปกติดังกล่าวควรพาลูกไปพบแพทย์โรคหัวใจโดยเร็วที่สุด เพราะหัวใจของลูกมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดในชีวิตพ่อแม่ ฟอกฟันขาวอย่างปลอดภัยเป็นอย่างไร

โลหะหนัก

การฟอกสีฟัน การฟอกสีฟันอย่างปลอดภัย ทุกวันนี้ การฟอกสีฟันภายใต้การดูแลของทันตแพทย์มืออาชีพเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องการพบปะผู้คน ฟันที่สวยงามและสะอาดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการยิ้มที่ดี สีฟันดูไม่สะอาด ไม่ขาว มีคราบเหลืองไม่น่าดู สาเหตุคืออะไร อาจเกิดจากการดื่มชาหรือกาแฟเป็นประจำ หรือทานอาหารรสจัดและสีเข้มบ่อยๆ

การฟอกสีฟันสามารถแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี การฟอกสีฟัน เป็นการดูแลฟันชนิดหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนสีฟันที่ขุ่นให้กลับมาขาวใสเหมือนยาสีฟัน สีฟันดั้งเดิมสำหรับรอยยิ้มที่ดีนั้นทำได้ โดยการใช้สารที่เรียกว่าไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ทำปฏิกิริยากับสารเคลือบฟันบนผิวฟันหรือในเนื้อฟัน ทำให้ฟันดูขาวขึ้น สดใสขึ้น

โดยไม่เกิดอันตรายใดๆ การฟอกสีฟัน สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้จริง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ลูกค้าให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการฟอกสีฟันมีความสำคัญพอๆ กับการดูแลฟันด้วยวิธีอื่นๆ เดนทอล วัน เดย์ โซลูชั่น ถือเป็นการดูแลฟันเพื่อให้ฟันขาว สะอาด สดใส ยิ้มสวยและน่ามอง ทำฟันเสร็จใน 1 วัน

สำหรับผู้สนใจพัฒนาอุปนิสัยที่ดี ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อพิจารณาการเตรียมฟันและสภาวะของสุขภาพช่องปาก เพื่อความปลอดภัยและผลการรักษาที่ดีที่สุด การฟอกสีฟันโดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 8 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับระดับสีของฟันที่มีอยู่ การฟอกสีฟันรวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้และการดูแลช่องปากส่วนบุคคลหลังจากการฟอกสีฟันจะไม่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างของฟันและจะไม่ทำให้ฟันเปราะบางมากขึ้น แต่อาการเสียวฟันอาจเกิดขึ้นระหว่างและหลังการฟอกสีฟัน อาการจะหายไปภายใน 1-2 วัน

บทความที่น่าสนใจ : สุนัขและแมว ศึกษาและอธิบายเหตุผลว่าทำไมสัตว์เลี้ยงถึงต้องกินหญ้า

Leave a Comment